Book now

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

สำหรับผู้เข้าพัก ผู้เข้ารับบริการต่าง ๆ ของโรงแรม

 

 

บริษัท ภัทรา จำกัด “Gadina Asoke”  ซึ่งเรียกว่า บริษัทตระหนักถึงความสำคัญและหน้าที่ภายใต้ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 โดยให้ความสำคัญในการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัว และมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของทุกท่านให้มีความปลอดภัย คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ให้ใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลของ ผู้เข้าพัก ผู้เข้ารับบริการต่าง ๆ กับโรงแรมของบริษัท เพื่อแจ้งและอธิบายให้ทราบว่า บริษัท เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร ข้อมูลใดบ้างที่บริษัทจัดเก็บ มีวัตถุประสงค์ใดในการประมวลผลข้อมูล มีการเปิดเผยข้อมูลของท่านอย่างไร มีมาตรการในการรักษาปกป้องข้อมูลของท่านอย่างไร รวมถึงสิทธิตามกฎหมายของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

1.  คำประกาศนี้มีผลบังคับใช้กับใครบ้าง

คำประกาศตัวนี้ครอบคลุมถึงข้อมูลส่วนบุคคล ของบุคคลใด ๆ ซึ่งเป็นผู้เข้าพักหรือเข้ารับบริการต่าง ๆ ของโรงแรม รวมถึงการให้บริการตามคำขอแก่เจ้าของข้อมูล การปฏิบัติตามกระบวนการภายในของบริษัทเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในให้บริการและการปฏิบัติตามสัญญา

 

2.  คำนิยาม

 

   2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data)

ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ รูปถ่าย หมายเลขโทรศัพท์ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Email) ID line เป็นต้น แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ที่ถึงแก่กรรม

 

    2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data)

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ เช่น เชื้อชาติ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ (Biometric) หรือข้อมูลอื่นใดในทำนองเดียวกันที่กฎหมายกำหนด ซึ่งบริษัท ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยบริษัท จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัท มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามที่กฎหมายอนุญาต

กรณีบริษัท ได้รับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตัวตนในการเข้าทำสัญญา การรับบริการต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงข้อมูลของคู่สัญญา การร้องขอ และ/หรือการทำธุรกรรมใด ๆ กับบริษัท ข้อมูลที่ได้รับจะมีข้อมูลศาสนาด้วย ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) บริษัทไม่มีนโยบายจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวจากท่าน ยกเว้นในกรณีที่บริษัทได้รับความยินยอมจากท่าน ทั้งนี้บริษัท จะกำหนดวิธีการจัดการตามแนวทางปฏิบัติและเป็นไปตามที่กฎหมายอนุญาต

 

     2.3 กลุ่มบริษัทธนิยะ

กลุ่มบริษัทธนิยะ หมายถึง บริษัท ธนิยะ จำกัด บริษัท ธนิยะ เรียลเอสเตต จำกัด บริษัท ญาดา ดีเวล ลอปเม้นท์ จำกัด บริษัท ภัทรา จำกัด บริษัท สปริงฟิลด์ โฮลดิ้ง จำกัด บริษัท สปริงฟิลด์ แอท ซี จำกัด บริษัท สปริงฟิลด์ รอยัล คันทรีคลับ จํากัด บริษัท ธัญวิลล์ จำกัด บริษัท ธนิยะ เมดิคอล เซนเตอร์ จำกัด บริษัท    ธนิยะ เดนทอล เซนเตอร์ จำกัด และรวมถึงบริษัทอื่น ๆ ที่อยู่ภายในเครืออีกด้วย

 

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

บริษัท ได้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น โดยบริษัท ได้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการ คู่สัญญา โดยมีประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บไว้ ตามตารางข้างล่างนี้

 

ตารางแสดงการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

 

 

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล            รายละเอียด

 

 

ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน                    เช่น คำนำหน้า ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน
วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน เพศ รูปถ่าย ส่วนสูง สัญชาติ หมายเลขโทรศัพท์ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Email) Line id, Messenger

 

ข้อมูลบุคคลที่สาม                          สำหรับการจองเป็นหมู่คณะ หรือการจัดสัมมนา

 

ข้อมูลอื่น ๆ                                 หมายเลขบัตรเครดิต

ทะเบียนรถ

 

 

 

 

4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคู่สัญญาของบริษัท จากแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลดังนี้

 

    4.1 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง

บริษัท อาจรวบรวมข้อมูลของท่าน โดยตรงจาก จากการติดต่อ การจองห้องพัก การลงทะเบียนเข้าพัก รวมถึงข้อมูลและการปรับปรุงข้อมูลของท่านตามที่ท่านร้องขอ เป็นต้น

 

    4.2 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น

บริษัท อาจรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น กลุ่มบริษัทธนิยะ นายหน้า เว็บไซด์ ผู้ให้บริการจองห้องพัก เช่น Agoda, Traveloka, Booking.com  พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของท่าน หรือจากแหล่งอื่นซึ่งเป็นไปตามความจำเป็นตามแต่กรณีที่กฎหมายอนุญาต

 

    4.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม

บริษัทอาจได้รับข้อมูลบุคคลที่สามที่มีความเกี่ยวข้องกับท่าน โดยท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลกับบริษัท
เช่นรายชื่อผู้ติดต่อ รายชื่อผู้เข้าพัก ตัวแทน หรือบุคคลอื่น ๆ ซึ่งบริษัทใช้ข้อมูลเพื่อให้บริการที่พักหรือกิจกรรมต่าง ๆ หรือเพื่อการปฏิบัติตามข้อกำหนดสัญญา เพื่อให้บริการกับท่าน  ท่านโปรดแจ้งคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้แก่บุคคลที่สามดังกล่าว เพื่อให้รับทราบคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของบริษัท และขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวหากจำเป็น เว้นเสียแต่ว่ามีข้อกำหนดทางกฎหมายอื่นตามกฎหมายในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามให้กับบริษัท โดยไม่ต้องขอความยินยอม

 

5. ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูล ดังต่อไปนี้

 

    5.1 การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis)

        เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา เช่น สัญญาการใช้บริการห้องพัก สัญญาเช่าพื้นที่ สัญญาให้บริการพื้นที่ สัญญาจ้างบริการส่วนกลาง สัญญาจ้างทำของ สัญญาจ้างบริการต่าง ๆ หรือสัญญาอื่นใด หรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาหรือก่อนเข้าทำสัญญา ตามแก่กรณี

    5.2 การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)

        เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น กฎหมายภาษีอากร กฎหมายคอมพิวเตอร์ และกฎหมายอื่น ที่บริษัทมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม

 

    5.3 ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)

        เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งจะไม่ละเมิดสิทธิพื้นฐาน หรือสิทธิ ทางเสรีภาพของท่าน

 

    5.4 ความยินยอม (Consent)

        บริษัท จะขอความยินยอมจากท่าน กรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้ขอความยินยอม หรือบริษัท ไม่มีเหตุให้ใช้ฐานการประมวลผลข้างต้นเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมมาจากท่านได้

 

6. วัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล)

บริษัท ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

 

ตารางแสดงวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

 

 

ประเภทข้อมูล                              วัตถุประสงค์ในการประมวลผล

 

 

ชื่อ – นามสกุล                               เพื่อตรวจสอบและยืนยันตัวตนในการเข้าใช้บริการของบริษัท

เลขประจำตัวประชาชน

เพศ วันเกิด รูปถ่าย ส่วนสูง

 

ที่อยู่                                          เพื่อแจ้งเกี่ยวกับข่าวสาร หรือส่งข้อมูลต่าง ๆ

เบอร์โทรศัพท์                               เพื่อแจ้งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น

ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Email)

หรือช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น

Line Id, Messenger เป็นต้น

 

หมายเลขบัตรเครดิต                       เพื่อรับชำระค่าที่พัก และค่าบริการ ต่าง ๆ

ทะเบียนรถ                                  เพื่ออำนวยความสะดวก และความปลอดภัย

 

เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย

 

 

 

 

7. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในบริษัทกลุ่มบริษัทธนิยะ บุคคลหรือหน่วยงานภายนอก ดังนี้

 

    7.1 ภายในบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในบริษัท เฉพาะที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์เท่านั้น โดยบุคคลหรือทีมงานของบริษัท เช่น
ฝ่ายไอที/คอมพิวเตอร์, ฝ่ายธุรการ, ฝ่ายกฎหมาย, ฝ่ายบัญชี, ฝ่ายการตลาด จะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามความจำเป็นและเหมาะสม เข้าถึงข้อมูลตามบทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบ

 

    7.2 ภายนอกบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับองค์กรภายนอก ดังนี้

7.2.1 หน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด เช่น กรมการปกครอง กรมสรรพากร หรือหน่วยงานอื่นใดที่อาศัยอำนาจตามกฎหมาย

7.2.2 บริษัทในกลุ่มบริษัทธนิยะ ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง ผู้ให้บริการสำหรับดำเนินการใด ๆ เช่น บริการทางกฎหมาย ผู้ตรวจสอบภายนอก ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี ที่ปรึกษาในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้เมื่อบริษัทใช้บริการจากหน่วยงานภายนอก บริษัทจะต้องมั่นใจว่าผู้ให้บริการเหล่านั้นได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย และข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการปกป้องโดยมาตรการที่เหมาะสม

 

8. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

บริษัท อาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้รับข้อมูลอื่น เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อจัดเก็บไว้บน Server หรือระบบคลาวด์ (Cloud) ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยบริษัท จะพิจารณาให้มั่นใจได้ว่าประเทศปลายทางนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามที่กฎหมายกำหนด

 

9. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัท จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นผู้เข้าพัก หรือผู้รับบริการของบริษัท หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ทั้งนี้บริษัทอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้

ทั้งนี้ บริษัท จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

10. บริษัท คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

บริษัท จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดี ทั้งด้านการบริหารจัดการ (Administrative Safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (Technical Safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical safeguard) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัท ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัท ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยมิชอบ และบริษัท ได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะตามความจำเป็น และเหมาะสม นอกจากนี้ผู้บริหาร พนักงาน ผู้รับจ้าง ตัวแทน
ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัท มีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทกำหนด ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)

 

11. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

สิทธิในส่วนนี้หมายถึงสิทธิตามกฎหมายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งท่านอาจขอใช้สิทธิเหล่านี้กับบริษัท ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดและกระบวนการจัดการสิทธิของบริษัท

 

    11.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่

 

     11.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัท เปิดเผยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นได้มาอย่างไรโดยปราศจากความยินยอมของท่าน

 

    11.3 สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัท ได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรงเว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

    11.4 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล

ท่านมีสิทธิขอคัดค้านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน  หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันการปฏิบัติตามกฎหมาย  หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี

 

    11.5 สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

 

    11.6 สิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน

 

    11.7 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัท แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หากท่านเป็นพนักงานหรือบุคลากรปัจจุบันของบริษัท ท่านสามารถปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามขั้นตอนดำเนินการของบริษัท

 

    11.8  สิทธิร้องเรียน

ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจ หากท่านเชื่อว่า การเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โปรดติดต่อบริษัท หรือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.)

 

12. การเปลี่ยนแปลงคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

บริษัท จะทำการพิจารณาทบทวนคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว บริษัท จะแจ้งให้ท่านทราบโดยการประกาศข้อมูลลงในเว็บไซต์ของบริษัท

  1. ช่องทางการติดต่อบริษัท

หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัท ผ่านช่องทางดังนี้

 

        บริษัท ธนิยะ จำกัด

เลขที่ 52 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

เว็บไซต์ของบริษัท           http://www.thaniyagroup.com/

หมายเลขโทรศัพท์           02-231-2244

ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์     pdpa@thaniyagroup.com

 

  1. ติดต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจ (Appropriate Authority)

หากท่านต้องการรายงานเรื่องร้องเรียน หรือหากท่านรู้สึกว่าบริษัท ไม่ตอบข้อกังวลของท่านในลักษณะที่น่าพึงพอใจ ท่านสามารถติดต่อและ/หรือร้องเรียนต่อ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ได้ตามรายละเอียดด้านล่าง

 

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.)

หมายเลขโทรศัพท์           02-142-1033

ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์     pdpc@mdes.go.th

เว็บไซต์                      https://www.mdes.go.th/mission/82

Facebook                   https://www.facebook.com/pdpc.th

ไปรษณีย์                      สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เลขที่ 120 หมู่ 3 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B)

ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ถนนแจ้งวัฒนะ

แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210